SIP-I และ SIP-T เป็นคู่โปรโตคอลที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างโครงข่าย [url]http://www.voip4share.com/voip-f39/sip-i-t380.html]ISUP[/url] และโครงข่าย SIP ทำให้รับส่งพารามิเตอร์ของ ISUP ผ่านโครงข่าย IP ได้โดยไม่สูญเสียข้อมูลเดิมที่รับมาจาก ISUP ประมาณว่าส่งไปที่ไหนก็ได้ในโลกที่มีอินเตอร์เน็ตนั่นหล่ะครับบ เมื่อก่อนก็ต้องต่อแบบ E1 เท่านั้น ทั้ง SIP-I และ SIP-T มีความคล้ายกันมาก ทำหน้าที่เหมือนัน
SIP-T พัฒนาโดย IETF ด้วยรูปแบบเดิมที่ใช้ในการพัฒนาโปรโตคอล SIP ขึ้นมา (SIP เป็นมาตรฐานของ IETF นะครับ ปัจจุบันเป็น SIP เวอร์ชั่น 2 อยู่ใน RFC 3261) โดยเริ่มพัฒนาขึ้นตอนกลางปี 2002 พร้อมๆกับการพัฒนา SIP ปัจจุบันมีอยู่ 4 มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับ SIP-T คือ RFC 3372, RFC 3398, RFC 3578, and RFC 3204
SIP-I พัฒนาโดย ITU ในปี 2004 โดยเอา SIP-T ของ IETF มาแก้ไข และได้ตั้งชื่อว่า SIP-I มีหมายเลขมาตรฐานอย่างเป็นทางการคือ ITU-T Q.1912.5
ทั้ง SIP-I และ SIP-T ได้กำหนดวิธีการแม๊ปปิ้ง Messages, Parameters, และ Error Codes ระหว่าง SIP และ ISUP ทั้งสองมาตรฐานต่างก็เข้ากันได้ทุกประการกับอุปกรณ์ SIP ที่ใช้ในโครงข่าย SIP
SIP-I และ SIP-T แตกต่างกันดังต่อไปนี้
1. SIP-I กำหนดการแม๊บปิ้งจาก SIP ไปยัง BICC (นอกเหนือจาก ISUP) ส่วน SIP-T พูดถึงเฉพาะ ISUP เท่านั้น
2. SIP-T โดยแท้แล้วถูกออกแบบให้ทำงานร่วมกันกับ SIP Terminal แท้ๆ ส่วน SIP-I ถูกจำกัดให้ใช้เฉพาะกับ PSTN gateway เท่านั้น
นอกจากนั้นทั้ง SIP-I และ SIP-T ก็ยังกำหนดการแม๊ปปิ้งข้อมูลระหว่างโปรโคตอลที่ค่อนข้างจะต่างกัน โดยจะต่างกันในการแปลง SIP errror code ไปเป็น ISUP cause code
วิธีที่ SIP-I และ SIP-T ยอมให้มีการทำ transparent transit ของ ISUP parameter ผ่านโครงข่าย SIP ก็คือโดยการแนบก๊อปปี้ตัวหนังสือของ ISUP message ต้นฉบับไปกับ SIP message ที่ ingress PSTN gateway ซึ่ง ISUP message นี้จะปรากฏอยู่ในส่วนอื่นของ SIP message (โดยทั่วไปจะอยู่ในส่วน SDP)
โครงข่าย SIP ไม่สนใจ extra ISUP body ประมวลผล ISUP เหมือนกับประมวลผล SIP message ปกติอย่างที่มันเคยทำ โดยไม่แตะต้องส่วนที่เป็นข้อมูลของ ISUP หลังจากโครงข่าย SIP ทำการแก้ไขส่วนที่จำเป็นมันก็จะส่งต่อ SIP message ไปยัง PSTN gateway โดยที่ Gateay ปลายทาง นี้ใช้จะดึงเอา ISUP message ออกมาจาก SIP message มาเป็นข้อมูลในการทำงานต่อไป อย่างไรก็ตามส่งที่มันจะทำเป็นอันดับแรกคือมันจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้แม๊ตซ์การเปลี่ยนแปลงทีทำต่อ SIP message ในระหว่างที่มันเดินทางไปในโครงข่าย SIP
ตามที่ได้พูดถึงตอนแรก กรณีของ SIP-T ข้อความอาจจะ terminate บน SIP terminal แท้ๆได้ด้วย ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะไม่สนใจ extra ISUP body นอกจากนั้นข้อความอาจจะกำเนิดจาก SIP endpoint เหล่านี้และเทอร์มิเนตที่ PSTN gateway ซึ่งจากนั้นจะสร้าง ISUP message ขึ้นมาสำหรับ PSTN
เมื่อเอาคอนเซ็ปต์ทั้งหมดนี้มารวมเข้าด้วยกันเป็น call flow ก็จะได้ call setup จาก PSTN ฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่งผ่านโครงข่าย SIP แบบนี้ครับ
- Typical ISUP Call Flow
- isup-call-flow.png (29.9 KiB) เปิดดู 4706 ครั้ง