Call Transfer - การโอนสายใน Elastix

Elastix IP Pbx

Moderator: jubjang

Call Transfer - การโอนสายใน Elastix

โพสต์โดย voip4share » 27 ม.ค. 2010 01:01

บทความนี้จะพูดถึงเรื่องการโอนสาย (Call Transfer) ใน Elastix นะครับ

การโอนสาย หรือ Call Transfer
การโอนสาย เป็นการโอนสายจากเบอร์ Extension เบอร์หนึ่ง ไปยังอีกเบอร์หนึ่ง เบอร์ปลายทางที่ต้องการโอนไปนั้นนะครับอาจจะเป็นเบอร์ Extension หรือไม่ก็เป็นเบอร์ที่อยู่ภายนอกตัว Elastix ก็ได้ เช่นเบอร์มือถือ เบอร์บ้าน เป็นต้น

การโอนสายสามารถทำได้ 2 แบบนะครับคือ

1 ใช้ฟีเจอร์โอนสายใน Elastix โดยกด ## หรือ *2

1.1 โอนสายโดยกด *2
เรียกการโอนสายแบบนี้ว่า Attended Transfer เมื่อกด *2 จะได้ยินเสียงว่า Transfer ตามด้วยเสียง Dial Tone ให้กดเบอร์ปลายทาง ต้องกดในทันใน 5 วินาทีนะครับ ไม่งั้นจะได้ยินเสียงว่า "I'm sorry, that's not valid extension please try again" เมื่อปลายทางรับสายเราสามารถคุยกับเขาก่อนได้ว่าใครโทรมาหาและจะรับสายหรือไม่ ถ้าเขาจะรับสายเราแค่วางสาย สายก็จะถูกโอนไป แต่ถ้าเขาไม่สะดวกจะรับสายเราก็กดเรียกคืนกลับมาแล้วบอกผู้ที่โทรเข้ามาว่าหมายเลขปลายทางไม่ว่าง ไม่อยู่ ประชุม อะไรก็ว่าไปครับ ยกตัวอย่างได้แบบนี้ครับ
เบอร์ 100 โทรหาเบอร์ 101 เพื่อขอข้อมูล แต่เบอร์ 101 ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ จึงโอนสายไปให้เบอร์ 102 ตอบแทน วิธีการโอนสายแบบ Attended Transfer มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- เบอร์ 101 บอกเบอร์ 101 ว่าจะโอนสายไปให้ผู้เกี่ยวข้อง
- เบอร์ 101 กด *2 พอได้ยินเสียง Transfer ตามด้วย Dial Tone ก็กดเบอร์ 102 ช่วงเวลานี้เบอร์ 100 จะได้ยินเสียงเพลงรอสาย Music On Hold พร้อมกันนั้นเบอร์ 102 ก็จะมีเสียงเรียก รอเบอร์ 102 รับสาย
- เบอร์ 102 รับสาย เบอร์ 101 คุยคร่าวๆว่ามีคนต้องการข้อมูลเรื่องอะไร สะดวกรับสายหรือไม่
- ถ้าเบอร์ 102 พร้อมรับสาย ให้เบอร์ 101 วางสาย ระบบจะเชื่อมต่อเบอร์ 100 กับ 102 ให้คุยกันทันที
- ถ้าเบอร์ 102 ไม่พร้อมรับสาย ก็ให้เบอร์ 102 วางสาย ระบบจะเชื่อมต่อเบอร์ 101 กับเบอร์ 100 ให้เหมือนเดิม และเบอร์ 101 ก็บอกว่าเจ้าหน้าที่ไม่อยู่

หรือจะโอนแบบนี้ก็ได้นะครับ คือพอ 101 กด *2 แล้วกดเบอร์ 102 แล้ว เบอร์ 101 ก็วางสายเลยก็ได้ แล้วระบบจะเชื่อมเบอร์ 100 กับ เบอร์102 แต่เคสนี้เบอร์ระหว่างที่รอ 102 รับ เบอร์ 100 จะได้ยินเสียง Ring Back แทน โอนไปแล้วไม่มีคนรับสายก็กด *8# ดึงสายกลับมา

1.2 โอนสายโดยกด ##
เรียกว่าเป็นการโอนสายแบบ Bind Transfer เมื่อต้องการโอนสายก็กด ## จะได้ยินเสียงว่า "Transfer" ตามด้วยเสียงไดอัลโทนยาว ให้กดเบอร์ปลายทาง ถ้ากดไม่ทันใน 5 วินาที จะได้ยินเสียงว่า "I'm sorry, that's not valid extension please try again" ก็ให้กด ## เริ่มต้นใหม่
เมื่อกดเบอร์ปลายทางเสร็จ สายก็จะถูกตัด และจะมีเสียงเรียกที่เบอร์ปลายทาง ขออนุญาตอธิบายแบบละเอียดพร้อมยกตัวอย่างนะครับ
เบอร์ 100 โทรหาเบอร์ 101 เพื่อขอข้อมูล แต่เบอร์ 101 ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ จึงโอนให้เบอร์ 102 วิธีการโอนสายแบบ Bind Transfer เป็นดังต่อไปนี้
- เบอร์ 101 บอกเบอร์ 100 ว่ารอสักครู่จะโอนไปให้ผู้เกี่ยวข้อง
- เบอร์ 101 กด ## และเมื่อได้ยินเสียง Transfer ตามด้วย Dial Tone ก็กดเบอร์ 102 สายของเบอร์ 101 ก็จะถูกตัดทันที ในระหว่างนี้เบอร์ 100 จะได้ยินเสียงรอสาย Music On Hold
- เบอร์ 100 จะได้ยินเสียง Ring Back รอเบอร์ 102 รับสาย

ปัญหาของการทำ Call Transfer และการแก้ไข
ปัญหาของการทำ Call Transfer ที่ผมเคยพบเป็นปัญหาเรื่อง Timeout เร็วไปครับ โดยกด *2 หรือ ## แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้ยินเสียง Transfer ก็เลยโอนสายไม่ได้ และพอได้ยิน Dial Tone กำลังนึกอยู่ว่าจะโอนไปเบอร์อะไร ปรากฏว่ามีเสียงบอก "I'm sorry ..." ซะแล้ว ถ้าเจอปัญหาใดปัญหาหนึ่งหรือทั้งสองปัญหา ให้แก้ไขออปชั่นในไฟล์ /etc/asterisk/features_general_custom.conf ดังต่อไปนี้ครับ

featuredigittimeout => 5000
transferdigittimeout => 3

ทั้งสองบรรทัดเป็นการกำหนด Digit Timeout ใหม่ บรรทัดบนเป็น Timeout หลังจากได้ยินเสียง Dial Tone (หลังพูดว่า Transfer) ตัวเลขหลังเครื่องหมาย => เป็นเวลาในหน่วย millisecond (5000 ms = 5 second) ส่วนบรรทัดล่างเป็น Timeout ในการกดเบอร์ ตัวเลขคือเวลาในหน่วย Second (วินาที)

ยกตัวอย่างนะครับ สมมติว่าเรากด *2 หรือ ## แล้วเราจะได้ยินเสียง Dial Tone ถ้าเราไม่กดเลขอะไรเลยภายในช่วงเวลา featuredigittimeout ก็จะมีเสียงบอกว่า "I am sorry...." เราต้องกด *2 หรือ ## ใหม่อีกครั้งนะครับ แต่ถ้าเรากดทัน สมมติว่ากด 085161 แล้่วหยุดไปนานเกินกว่าช่วงเวลา transferdigittimeout ระบบก็จะโทรออกให้เราเลยนะครับเพราะถือว่าเรากดจบแล้ว พอเข้าใจนะครับ

อีกบรรทัดหนึ่งครับที่ควรต้องเพิ่มเข้าไปเช่นเดียวกัน คือบรรทัดนี้
atxfernoanswertimeout => 30
บรรทัดนี้จะกำหนดช่วงเวลาที่จะรอให้ปลายทางรับสาย โดยจะเริ่มนับตั้งแต่เรากดตัวเลขตัวสุดท้ายไปจนกระทั่งปลายทางรับสาย ถ้ารับสายทันในช่วงเวลานี้ก็จะถือว่า ok ถ้ารับไม่ทันก็ I am sorry... อีกครับ ต้องโอนใหม่

บันทึกไฟล์ จากนั้นเข้า Asterisk Console แล้วพิมพ์คำสั่ง reload รับประกันว่าเวอร์คแน่นอนครับ

การโอนสายทั้ง 2 แบบนี้ใช้งานได้ทันทีเลยนะครับ เพราะมีอยู่ใน Feature Codes แล้ว

ไฟล์ใน Elastix ที่เกี่ยวข้องกับการทำ Call Transfer

ในไดเร็คตอรี่ /etc/asterisk มีไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับการทำ Call Transfer อยู่หลายไฟล์ครับ ชื่อไฟล์ขึ้นต้นด้วย features* มีไฟล์หลักคือ features.conf และไฟล์ย่อยๆอีก 6 ไฟล์ ซึ่งไฟล์ที่ควรให้ความสนใจมี 2 ไฟล์คือ features_featuremap_additional.conf และ features_general_custom.conf

ไฟล์ features_featuremap_additional.conf

do not edit this file, this is an auto-generated file by freepbx
; all modifications must be done from the web gui

blindxfer=##
atxfer=*2
automon=*1
disconnect=**

ไฟล์นี้จะกำหนดว่าถ้าเราต้องการทำ Blind Transfer ต้องกดปุ่มอะไร ต้องการทำ Attended Transfer ต้องกดปุ่มอะไร ถ้าอยากแก้ไขให้แก้ที่เมนู Feature Codes ในเว็บอินเตอร์เฟสของ Elastix นะครับ โดยแก้ที่ In-Call Asterisk Blind Transfer และ In-Call Asterisk Attended Transfer ตามลำดับ

ถ้าเราก๊อปปี้บรรทัดในไฟล์ features_featuremap_additional.conf ไปไว้ในไฟล์ features_featuremap_custom.conf แล้วแก้ค่าแต่ละบรรทัดใหม่ Elastix มันจะไม่สนใจไฟล์ features_featuremap_additional.conf นะครับ มันจะไปใช้ไฟล์ features_featuremap_custom.conf แทน

ส่วนอีกไฟล์หนึ่งคือ features_general_custom.conf ซึ่งได้อธิบายไว้แล้วนะครับ ด้านบน ซึ่งเราสามารถใส่ออปชั่น features ต่างๆไว้ในไฟล์นี้ได้และ Elastix จะใช้ออปชั่นในไฟล์นี้เป็นหลัก (ถ้าเป็นออปชั่นซ้ำในไฟล์อื่น) นี้เป็นออปชั่นทั้งหมดพร้อมรายละเอียดของ Features ครับ หากต้องการเอามาใช้ให้ใส่ไว้ในไฟล์ features_general_custom.conf และ features_featuremap_custom.conf


2 ใช้ฟีเจอร์โอนสายในอุปกรณ์ VoIP
อุปกรณ์ VoIP ที่มีปุ่มโอนสายโดยเฉพาะก็เช่น IP Phone ครับ ซึ่งอาจจะมีปุ่ม XFER หรือ Transfer หรือกด * ตามด้วยตัวเลข หรือถ้าไม่มีปุ่มโอนสายต่างหากก็อาจจะกดแคร่วางหูเป็นเวลาสั้นๆก็ได้ ลองหาอ่านในคู่มือของอุปกรณ์ VoIP ที่ใช้นะครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง
เทคนิคการโอนสายเมื่อโทรออกไปภายนอกผ่าน Trunks
voip4share
Administrator
 
โพสต์: 656
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 พ.ย. 2009 11:26
ที่อยู่: รามคำแหง กรุงเทพฯ

ย้อนกลับไปยัง Elastix - Unified Communications Software

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน

cron