หน้า 1 จากทั้งหมด 1

วิธีการติดตั้ง Elastix เวอร์ชั่น 2.0

โพสต์โพสต์แล้ว: 11 ส.ค. 2010 11:24
โดย nuiz
เปิดบริการ อบรม Issabel/FreePBX/Elastix ด้วยคอร์สพิเศษ ให้ติดตั้ง คอนฟิกคล่อง ใช้งานคล่อง ได้ใน 3 วัน
วิธีการติดตั้ง Issabel บน CentOS 7
เทคนิคการคอนฟิก Firewall เมื่อเปลี่ยนพอร์ต Web (http/https)
เทคนิคการคอนฟิก Firewall ให้เปิดรับบาง Port จากบาง IP

ผมดาวน์โหลด Elastix แล้วลองติดตั้งดู ขั้นตอนการติดตั้งส่วนใหญ่ก็จะคล้ายๆเดิมครับ มีเพิ่มเติมขึ้นมาก็ตรงที่
- ให้เราเซ็ต IP address, Subnet mask, Default gateway, DNS Server ได้
- เซ็ต Hostname ได้
- เลือก Package ที่จะติดตั้งเพิ่มเติมได้ (อันนี้คุ้นๆอ่ะครับว่าน่าจะมีมาตั้งแต่เวอร์ชั่น 1.5 หรือ 1.6 แล้ว)
- เซ็ต Password ของ Root ใน MySQL ได้
- เซ็ต Password ของ admin ใน Elastix ได้ อย่างเช่นตอนล๊อกอินเข้า Web Interface

ต่อไปนี้จะเป็นขั้นตอนติดตั้ง Elastix 2.0 นะครับ

1. ใส่แผ่นเข้าไปในไดร์ฟ CD แล้วก็รีสตาร์ทเครื่อง ถ้าเซ็ตที่ BIOS ให้บู๊ตจากไดร์ฟ CD ด้วย เครื่องจะบู๊ตจากแผ่นแล้วก็จะเห็นหน้าจอแบบนี้ครับ
000.png
Elastix 2.0 Installation
000.png (15.28 KiB) เปิดดู 18310 ครั้ง

2. กด Enter หรือปล่อยไว้สักพัก ก็จะเริ่มติดตั้ง มีให้เลือกภาษาที่ใช้ในตอนติดตั้ง ถนัดภาษาไทยก็เลือกภาษานั้นครับ
001.0.png
001.0.png (6.47 KiB) เปิดดู 18310 ครั้ง

3. เลือกภาษาบนคีย์บอร์ด ใช้ดีฟอลท์คือ "us" ครับ
001.png
001.png (5.78 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง

4.เลือกพาร์ติชั่นฮาร์ดดิสก์ที่จะติดตั้ง แนะนำให้เลือกออปชั่นแรกครับ "Remove all partitions on selected..." จากนั้นกด Tab ไปที่ "OK" แล้วกด Enter
002.png
002.png (9.37 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


5. โปรแกรมจะเตือนว่าข้อมูลในพาร์ติชั่นที่เลือกจะถูกฟอร์แม๊ต
กด Tab เลื่อนไปที่ "Yes" แล้วกด Enter
003.png
003.png (5.73 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


6. ต้องการดูการแบ่งพาร์ติชั่นบนฮาร์ดดิสก์หรือไม่ ถ้าไม่ต้องการดูให้ กด Tab ไปที่ "No" แล้วกด Enter
004.png
004.png (4.51 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


7. โปรแกรมจะถามว่าต้องการคอนฟิกพอร์ต Ethernet 0 หรือไม่ คอนฟิก IP, Subnet, Gateway และ DNS
กดปุ่ม Enter
005.png
005.png (4.94 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


8. เลือกออปชั่นของการ์ด Eternet 0 ครับ เช่น ให้แอ๊คทีฟตอนบู๊ตหรือไม่ (ต้องเลือกครับ) และจะใช้ IPv4, IPv6 ด้วยหรือไม่ อย่างน้อยต้องเลือก IPv4 ครับ การเลือกให้กดปุ่ม Tab จนแถบสีอยู่บนออปชั่นที่ต้องการ แก้วกดปุ่ม Spacebar
006.png
006.png (6.25 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง

กด Tab ให้มาอยู่ที่ "Ok" แล้วกด Enter

9. เลือกออปชั่นการคอนฟิก IP Address ในรูปตัวอย่างผมคอนฟิก IP แบบ Static ป้อนค่า IP และ Subnet Mask แล้วกดปุ่ม Enter
007.png
007.png (6.89 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


10. ป้อนค่า Default gateway, DNS Server
008.png
008.png (5.22 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


11. ตั้งชื่อเครื่อง Hostname
009.png
009.png (7.44 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


12. เลือก Timezone ซึ่งจะมีผลต่อเวลาในเครื่อง
010.png
010.png (6.23 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


13. ตั้ง Password ครับ เป็นพาสเวอร์ดของ Root ที่จะใช้ล๊อกอินเข้า CentOS
011.png
011.png (6.89 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


14. เลือก Software packages ที่จะติดตั้งเพิ่มเติมครับ (ถ้าต้องการ)
012.png
012.png (6.8 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


15. โปรแกรมบอกว่าจะเก็บ Log ระหว่างการติดตั้งไว้ที่ /root/install.log
013.png
013.png (5.72 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


16. ฟอร์แม๊ตฮาร์ดดิสก์
014.png
014.png (3.86 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


17. เริ่มก๊อปปี้ไฟล์ลงฮาร์ดดิสก์
015.png
015.png (4.13 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


016.png
016.png (5.88 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


017.png
017.png (7.26 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


20. ก๊อปปี้เสร็จแล้วก็รีสตาร์ทเครื่องอัตโนมัติ
018.png
018.png (6.84 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


21. บู๊ตเครื่องอัตโนมัติ
019.png
019.png (13.13 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


22. ตั้ง Password ของ MySQL Server (ยูสเซอร์เนมคือ root)
020.png
020.png (6.86 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง

021.png
021.png (3.88 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


24. ตั้ง Password ของ Web Interface ของ Elastix รวมทั้งโปรแกรมอื่นๆด้วย
022.png
022.png (7.87 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง

023.png
023.png (3.84 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


26. หน้าล๊อกอิน ล๊อกอินด้วย root และพาสเวอร์ดที่ตั้งในในขั้นตอนที่ 13 ครับ
024.png
024.png (2.29 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


27. อัพเดทครับ พิมพ์คำสั่ง
โค้ด: เลือกทั้งหมด
yum -y update

025.png
025.png (2.42 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง

026.png
026.png (14.6 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง

027.png
027.png (12.12 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


30. อัพเดทเสร็จแล้วก็ต้องรีสตาร์ทครับ พิมพ์คำสั่ง
โค้ด: เลือกทั้งหมด
reboot

028.png
028.png (10.86 KiB) เปิดดู 18309 ครั้ง


เป็นอันกว่าการติดตั้ง Elatix 2.0 ก็ผ่านไปด้วยดีครับ ล๊อกอินเข้า Web Interface ของ Elastix ได้เลยครับ


อันนี้เป็นหน้าล๊อกอินของเว็บครับ มีเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยตรงสี สวยกว่าเดิมเยอะเลย
login-s.png
Web Login
login-s.png (72.06 KiB) เปิดดู 18332 ครั้ง


อันนี้เป็นหน้า Dashboard ครับ ซึ่งจะปิดก็ได้
main-s.png
Main
main-s.png (204.9 KiB) เปิดดู 18331 ครั้ง


โดยรวมแล้วผมว่าสวยและดูดีกว่าเดิม

บทความที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งาน Elastix
วิธีการติดตั้ง Elastix เวอร์ชั่น 1.6
วิธีการติดตั้ง Elastix แบบแบ่งพาร์ติชั่น
เทคนิคการทำ Elastix Cluster

Re: ติดตั้ง Elastix 2.0

โพสต์โพสต์แล้ว: 11 ส.ค. 2010 16:31
โดย nepenthes
ทดลองใช้แล้วครับ เจ๋งๆ

แต่ตัว Fllow me ยัง record ไม่ได้เหมือนเดิม

Re: วิธีการติดตั้ง Elastix เวอร์ชั่น 2.0

โพสต์โพสต์แล้ว: 14 ม.ค. 2011 11:06
โดย Pisces
ได้ลองลง version 2.0.3 ค่ะ พบปัญหาว่า ไม่สามารถ upload callcenter module ได้ค่ะ โดยลง version 1.5_3.9 และได้ทำการเปลี่ยนชื่อไฟล์ตาม format ที่กำหนดแล้ว (modulename-version.tar.gz)
callcenter-1.5.3.9.tar.gz
พบ error ดังนี้ค่ะ

[img]The following error(s) occurred processing the uploaded file:

•File extracting to invalid location: agent_console/
•File extracting to invalid location: agent_console/configs/
•File extracting to invalid location: agent_console/configs/default.conf.php
•File extracting to invalid location: agent_console/help/
•File extracting to invalid location: agent_console/help/agent_console.hlp
•File extracting to invalid location: agent_console/index.php
•File extracting to invalid location: agent_console/lang/
•File extracting to invalid location: agent_console/lang/fa.lang
:
:
:

You should fix the problem or select another file and try again.[/img]