การรับเบอร์ DID มาทาง SIP Trunk
โพสต์แล้ว: 18 ธ.ค. 2009 00:03
ดาวน์โหลดเอกสารบทความ Elastix Inbound DID นี้ในรูปแบบ PDF
มาดูวิธีการคอนฟิก Elastix ให้รับเบอร์ DID กันครับ
ผมจะเซ็ตให้ Elastix รับเบอร์ DID 021000001 เข้ามา จากนั้นส่งต่อไปยังเบอร์ Extension 100 นะครับ แต่ก่อนอื่นดูรูปกันก่อนครับ
อธิบายได้ว่าผมต่อ Elastix ไอพี 59.2.0.2 แบบ SIP Trunk กับ SIP Server ของผู้ให้บริการเบอร์ DID ไอพี 58.1.0.1 เพื่อที่จะรับเบอร์ 021000001 เข้ามา จากนั้นจะส่งต่อไปยังเบอร์ Extension 100 ทดสอบว่าใช้งานได้หรือไม่ได้ก็โดยการใช้เบอร์ 021000010 โทรเข้ามาที่เบอร์ดังกล่าว ถ้ามาดังที่เบอร์ Extension 100 ก็แสดงว่าเวอร์ค ถ้าไม่ก็งานเข้าครับ เดี๋ยวผมจะบอกไว้ด้วยครับว่าถ้าไม่เวอร์คเราพอจะเช็คตรงไหนได้บ้าง เป็นปัญหาที่ผู้ให้บริการหรือว่าเป็นปัญหาที่เรา บางครั้งผู้ให้บริการก็มึนเหมือนกันนะครับอย่าโทษเราฝ่ายเดียว
ในรูปมีศัพท์ใหม่ๆ 2 คำครับ คือ CALLERID และ DNIS มีความหมายดังนี้ครับ
CALLERID (ย่อมาจาก Caller Identification คือเบอร์คนที่โทรเข้ามา ยกตัวอย่างเช่นเวลามีคนโทรมาหาที่มือถือเรา เบอร์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอก่อนรับสาย นั่นแหล่ะเขาเรียกว่า Caller ID ครับ เขียนให้ย่อกว่านี้ได้อีกนะคับ คือ CID แต่พนักงานตามชุมสายโทรศัพท์เขาจะเรียกว่า "A Number" แทนครับ ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่มันก็คืออันเดียวกัน
DNIS ย่อมาจาก Dialed Number Identification Service คือเบอร์ปลายทางที่เราจะโทรไปครับ เช่น ผมจะโทรไปหาน้องกิ๊ก เบอร์น้องกิ๊กเรียกว่า DNIS ครับ และเช่นกันพนักงานตามชุมสายเขาจะเรียกว่า "B Number" แทนครับ
สรุปอีกทีครับ ผมโทรหาน้องกิ๊ก เบอร์ผมเป็น CID หรือ A-Number ส่วนเบอร์น้องกิ๊กเป็น DNIS หรือ B-Number
เอาหล่ะครับ มาคอนฟิก Elastix กันดีกว่า ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ขั้นตอนที่ 1-3 ไม่ต้องเรียงลำดับก็ได้นะครับ แต่ระวังจะงง )
1. สร้างเบอร์ Extension 100
2. สร้าง Inbount Trunk
3. สร้าง Inbound Route และเลือก Destination เป็น Extension 100
4. ทดสอบโทรเข้า
5. การแก้ปัญหา
1. สร้างเบอร์ Extension 100
รายละเอียดวิธีการสร้างเบอร์ Extension
ปล่อยให้บรรทัด context=from-internal เหมือนเดิมนะครับ เพราะ Elastix จะเอามาเทียบกับบรรทัด context ตอนที่เราสร้าง Inbound Trunk ชื่อต้องเหมือนกัน ไม่เหมือนจะโทรหากันไม่ได้ครับ
ลองศึกษาให้ละเอียดนะครับ ถ้ายังไม่เข้าใจก็อ่านซ้ำได้
มาดูวิธีการคอนฟิก Elastix ให้รับเบอร์ DID กันครับ
ผมจะเซ็ตให้ Elastix รับเบอร์ DID 021000001 เข้ามา จากนั้นส่งต่อไปยังเบอร์ Extension 100 นะครับ แต่ก่อนอื่นดูรูปกันก่อนครับ
อธิบายได้ว่าผมต่อ Elastix ไอพี 59.2.0.2 แบบ SIP Trunk กับ SIP Server ของผู้ให้บริการเบอร์ DID ไอพี 58.1.0.1 เพื่อที่จะรับเบอร์ 021000001 เข้ามา จากนั้นจะส่งต่อไปยังเบอร์ Extension 100 ทดสอบว่าใช้งานได้หรือไม่ได้ก็โดยการใช้เบอร์ 021000010 โทรเข้ามาที่เบอร์ดังกล่าว ถ้ามาดังที่เบอร์ Extension 100 ก็แสดงว่าเวอร์ค ถ้าไม่ก็งานเข้าครับ เดี๋ยวผมจะบอกไว้ด้วยครับว่าถ้าไม่เวอร์คเราพอจะเช็คตรงไหนได้บ้าง เป็นปัญหาที่ผู้ให้บริการหรือว่าเป็นปัญหาที่เรา บางครั้งผู้ให้บริการก็มึนเหมือนกันนะครับอย่าโทษเราฝ่ายเดียว
ในรูปมีศัพท์ใหม่ๆ 2 คำครับ คือ CALLERID และ DNIS มีความหมายดังนี้ครับ
CALLERID (ย่อมาจาก Caller Identification คือเบอร์คนที่โทรเข้ามา ยกตัวอย่างเช่นเวลามีคนโทรมาหาที่มือถือเรา เบอร์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอก่อนรับสาย นั่นแหล่ะเขาเรียกว่า Caller ID ครับ เขียนให้ย่อกว่านี้ได้อีกนะคับ คือ CID แต่พนักงานตามชุมสายโทรศัพท์เขาจะเรียกว่า "A Number" แทนครับ ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่มันก็คืออันเดียวกัน
DNIS ย่อมาจาก Dialed Number Identification Service คือเบอร์ปลายทางที่เราจะโทรไปครับ เช่น ผมจะโทรไปหาน้องกิ๊ก เบอร์น้องกิ๊กเรียกว่า DNIS ครับ และเช่นกันพนักงานตามชุมสายเขาจะเรียกว่า "B Number" แทนครับ
สรุปอีกทีครับ ผมโทรหาน้องกิ๊ก เบอร์ผมเป็น CID หรือ A-Number ส่วนเบอร์น้องกิ๊กเป็น DNIS หรือ B-Number
เอาหล่ะครับ มาคอนฟิก Elastix กันดีกว่า ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ขั้นตอนที่ 1-3 ไม่ต้องเรียงลำดับก็ได้นะครับ แต่ระวังจะงง )
1. สร้างเบอร์ Extension 100
2. สร้าง Inbount Trunk
3. สร้าง Inbound Route และเลือก Destination เป็น Extension 100
4. ทดสอบโทรเข้า
5. การแก้ปัญหา
1. สร้างเบอร์ Extension 100
รายละเอียดวิธีการสร้างเบอร์ Extension
ปล่อยให้บรรทัด context=from-internal เหมือนเดิมนะครับ เพราะ Elastix จะเอามาเทียบกับบรรทัด context ตอนที่เราสร้าง Inbound Trunk ชื่อต้องเหมือนกัน ไม่เหมือนจะโทรหากันไม่ได้ครับ
ลองศึกษาให้ละเอียดนะครับ ถ้ายังไม่เข้าใจก็อ่านซ้ำได้