หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เทคนิคการเปลี่ยนเสียงริง (Ring) ขณะโทรออกให้เป็นเสียงเพลง

โพสต์โพสต์แล้ว: 18 ม.ค. 2015 11:29
โดย nuiz
** ต้องขอขอบคุณลูกค้าบริษัทหนึ่งที่ต้องการฟีเจอร์นี้ ผมเลยทำขึ้นมาเผยแพร่ในเว็บด้วยครับ **

** นอกจากเซ็ตตามวิธีในบทความนี้ ยังมีอีกที่หนึ่งที่เซ็ตได้คือ เมนู Follow Me ครับ รายละเอียดอยู่ที่ด้านท้ายบทความนี้ แต่ผมทำแล้วพบว่ามีปัญหากับการโอนสายครับ มันกด *2 หรือ ## เพื่อโอนสายไม่ได้ **

เมื่อโทรจากเบอร์หนึ่งไปยังอีกเบอร์หนึ่ง ระหว่างที่รอปลายทางรับสายเราจะได้ยินเสียงริงรอสาย เป็นเสียง ตู๊ด ๆ ๆ ๆ ไปเรื่อยๆ เราสามารถเปลี่ยนเสียงรอสายตู๊ดๆนี้ให้เป็นเสียงดนตรี เสียงเพลง หรือเสียงอื่นๆได้ด้วยนะครับ จะได้ไม่จำเจอยู่กับของเดิมๆครับ ใช้เทคนิค Music On Hold ช่วยร่วมกับ Dial Options การโทรออกของ Asterisk ครับ

บทความนี้ใช้ได้กับ Elastix ทุกเวอร์ชั่นครับรวมทั้ง FreePBX ด้วย เพียงแต่ว่าในขั้นตอนการตั้งค่า Dial Options ของ Elastix 2.5 มันต่างจากเวอร์ชั่นอื่นนิดหน่อย ผมจะมีแนะนำไว้อย่างละเอียดครับ

ขั้นตอนมีดังนี้

1. สร้าง Music On Hold Category เพิ่มเติม
ล๊อกอินเข้าหน้าเว็บ Elastix คลิ๊กแท๊บ PBX คลิ๊กเมนู Music On Hold

บน Elastix มี Category ดีฟอลท์อยู่แล้วชื่อว่า default ครับ เราจะใช้ Category ชื่อนี้เลยก็ได้ หรือว่าจะสร้างใหม่ก็ได้ เพื่อไม่ให้ไปซ้ำกับเสียงตอนจะโอนสาย แต่ผมแนะนำว่าควรสร้าง Category ใหม่จะดีกว่าครับ เสียงจะได้ไม่ซ้ำกัน

สร้าง Category ใหม่ คลิ๊ก Add Music Catagory
รูปภาพ

ตั้งชื่อ ผมตั้งชื่อเป็น central
รูปภาพ

จากนั้นคลิ๊กที่ชื่อ central
รูปภาพ

อัพโหลดไฟล์เสียงเพลงเข้าไป แนะนำเป็นไฟล์ .wav ครับ ฟอร์แม็ต PCM, 8000 Hz, 16 bit, Mono หากจะอัพเป็นไฟล์ MP3 ก็ได้ครับ แต่ให้ลบ MP3 Tag ออกก่อน หาวิธีการลบได้ใน Google ครับ หากมีไฟล์ MP3 หรือ Wav แต่ยังไม่ได้เป็นฟอร์แม็ตดังกล่าว ให้แปลงฟอร์แม็ตก่อนครับตามบทความนี้ เทคนิคการแปลงไฟล์ Asterisk/Elastix แบบออนไลน์
รูปภาพ

ไฟล์ที่อัพโหลดเข้าไปใน Category ชื่อ central ครับ อัพโหลดได้หลายไฟล์เลยนะครับ แล้วคลิ๊กที่ Enable Random Play ให้มันเลือกใช้เสียงหลายๆเสียง ในตัวอย่างผมมีแค่เสียงเดียว
รูปภาพ

เมื่อได้ Music On Hold Catagory ชื่อ central แล้ว ลำดับต่อไปคือการเซ็ต Dial Options ของ Asterisk ครับ ซึ่งบน Elastix 2.5 เมนูเซ็ตจะอยู่คนละที่กับเวอร์ชั่นก่อนหน้า ผมจึงแยกเขียนเป็น 2 ข้อครับ ดังนี้

2. ตั้งค่า Dial Options สำหรับ Elastix 2.4 หรือต่ำกว่า
ล๊อกอินเข้าหน้าเว็บ Elastix ครับ แล้วคลิ๊ก PBX และ General Settings ดังรูป
** ถ้าไม่รู้ว่าใช้ Elastix เวอร์ชั่นอะไร ดูไม่ยากครับ ถ้าไม่เห็นเมนูนี้แสดงว่าเครื่องของท่านเป็น Elastix 2.5 ครับ ให้ข้ามไปหัวข้อต่อไปเลย **
รูปภาพ

ดูที่บรรทัด Asterisk Dial command options ครับ ใช้เมื่อโทรภายในระบบ Elastix ครับ ไม่เกี่ยวกับการโทรออกไปภายนอก
ค่าดีฟอลท์มี tr ตามรูป ซึ่ง t จะทำให้ปลายทางโอนสายได้ ส่วน r จะทำให้ได้ยินเสียง ring ระหว่างรอปลายทางรับสายครับ
รูปภาพ

คีย์ของบทความนี้อยู่ตรง Dial options นี้แหล่ะครับ เพราะมีออปชั่น m (ตัวเอ็มเล็ก) ซึ่งหมายถึง Music On Hold ถ้าเราใส่เข้าไปเราจะได้ยินเสียง Music On Hold แทนเสียงริง ใส่ตัว m เฉยๆโดยไม่ระบุชื่อ Category มันจะใช้ Category ชื่อ default ครับ ดังนั้นหากเราต้องการให้เล่นไฟล์ใน Category ชื่อ central เราต้องบอกมัน แบบนี้ครับ m(central) เขียนติดกันนะครับห้ามเว้นวรรค

อย่าลืมเอาตัว r ออกไปด้วยนะครับ

ดังนั้น Asterisk Dial command options ใหม่ของเราจะเป็นแบบนี้
tm ซึ่งจะเล่นไฟล์ใน Category ชื่อ default
รูปภาพ

หรือ tm(central) ซึ่งจะเล่นไฟล์ใน Category ชื่อ central
รูปภาพ

เพิ่มเติมครับ ตรง Asterisk Dial command options เราอาจจะใส่ตัว T (ตัวทีใหญ่) เพิ่มเข้าไปด้วยก็ได้ เพื่อให้คนโทรสามารถกดโอนสายได้ด้วย แบบนี้ครับ tTm หรือ tTm(central)

กด Submit และ Apply Configuration Changes Here แล้วทดสอบผลงานได้เลยครับ

3. ตั้งค่า Dial Options สำหรับ Elastix 2.5 หรือ FreePBX เวอร์ชั่นใหม่ๆ
ให้ทำแบบเดียวกันกับ Elastix 2.4 ครับ แต่ที่เซ็ต Asterisk Dial command options ต้องเข้าไปเซ็ตใน FreePBX ครับ ดังนี้

เข้า PBX และคลิ๊กที่ Unembedded FreePBX ด้านล่างสุด
รูปภาพ

** ถ้าเข้าไม่ได้ให้ทำตามบทความนี้ครับ เทคนิคทำให้เข้าหน้าเว็บ FreePBX ใน Elastix ได้ **

จะเห็นหน้าเว็บคอนฟิก FreePBX ดังรูป
รูปภาพ

คลิ๊ก Settings -> Advanced Settings ตามรูป
รูปภาพ

หาบรรทัด Asterisk Dial Options (อันเดียวกับบรรทัด Asterisk Dial command options ใน Elastix 2.4)
รูปภาพ

ดีฟอลท์คือ tr ครับ แก้ให้เป็น tm หรือ tm(central) หรือ tTm หรือ tTm(central)
** คงจำกันได้นะครับว่าตัว T จะทำให้คนโทรโอนสายได้ **
จากนั้นคลิ๊กรูปลูกศรในวงกลมสีเขียวๆ แล้วคลิ๊ก Apply Config ด้านบน

ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ ทดสอบผลงานได้เลย

ของแถมครับ
เซ็ตเสียงรอสายแทนเสียงริงด้วยเมนู Follow Me
ข้อดีคือ แต่ละคนสามารถมีเสียงรอสายได้ของใครของมัน
ข้อเสีย (ที่ผมยังหาทางแก้ไขไม่ได้) คือ เมื่อเซ็ต MOH แล้วเลือก Catagory เป็นเสียงรอสาย มันจะโอนสายไม่ได้ กด *2 หรือ ## นิ่งสนิทเลย ไม่มีเสียง Transfer อย่างที่เคยได้ยิน
เข้าเมนู PBX -> Follow Me
รูปภาพ

บรรทัด Play Music On Hold เลือก Category ที่เราทำไว้ในเมนู Music On Hold
รูปภาพ