หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เริ่มต้นคอนฟิก Elastix อย่างเป็นขั้นตอน ตอนที่ 4

โพสต์โพสต์แล้ว: 21 ม.ค. 2010 16:59
โดย voip4share
เป็นการคอนฟิก Elastix ตอนที่ 4 แล้วนะครับ สำหรับท่านที่ใจร้อนอยากทดสอบและใช้งาน VoIP แล้ว ตอนนี้ได้ทำแน่นอนแล้วครับ ผมจะเริ่มที่เมนู PBX ก่อนเลย เตรียมโปรแกรม Softphone ไว้หรือยังครับ สร้างปุ๊บจะได้ทดสอบปั๊บ เวอร์คหรือไม่เวอร์คก็จะได้รู้กัน

1 สร้างเบอร์ Extension
เบอร์ Extension ใน Elastix มีหลายแบบได้แก่ SIP, IAX2 และ ZAP ผมขออนุญาตไม่พูดความแตกต่างของแต่ละแบบนะครับ ผมได้อธิบายไว้แล้วที่ กระทู้นี้ ครับ
ผมจะสร้างเบอร์ Extension แบบ SIP นะครับ (เพราะ SIP มีคนนิยมใช้งานมากกว่า IAX มีโปรแกรม SIP Softphone ให้ดาวน์โหลดมาใช้งานเยอะกว่า และอุปกรณ์ VoIP แบบ SIP ก็หาซื้อได้ง่ายกว่า) สร้างจำนวน 3 เบอร์ คือ 100 ให้ Khun Nui ใช้, 101 ให้ Khun Kik ใช้ และ 102 ให้ Khun Joy ใช้
แต่ละเบอร์ผมเปิดใช้ Voicemail ด้วย คอนฟิกให้ครบทั้ง 3 เบอร์ และนี่เป็นตัวอย่างคอนฟิกของเบอร์ Extension 101 ครับ
elastix-extensions.jpg
Elastix Extensions
elastix-extensions.jpg (257.36 KiB) เปิดดู 16495 ครั้ง

อย่าลืมคอนฟิกเบอร์ที่เหลือด้วยนะครับ

2 คอนฟิก SIP Clients ให้รีจิสเตอร์กับ Elastix
ต่อไปเป็นการเอาเบอร์ Extension ไปคอนฟิกใส่ไว้ใน SIP Clients นะครับ เช่น SIP SoftPhone, SIP ATA, SIP Gateway, SIP IP Phone เป็นต้น เอาแบบง่ายๆก่อนนะครับคือใช้ SIP SoftPhone ผมมีให้เลือก 3 โปรแกรม คือ X-Lite, PortSIP/Pangolin และ SipLite ใช้โปรแกรมไหนก็ได้
ในการคอนฟิกใช้เบอร์ Extension เป็น Username และใช้ Secret เป็น Password นะครับ ส่วน SIP Server ก็ใส่ไอพีแอดเดรสของ Elastix ส่วน Port ก็เป็นพอร์ตของ SIP ใน Elastix ซึ่งดีฟอลท์จะเป็นพอร์ต 5060 ครับ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

ต่อไปเป็นตัวอย่างการคอนฟิกเบอร์ Extension 100 นะครับ และไอพีแอดเดรสของ Elastix คือ 192.168.4.55 พอร์ตคือ 5060

โปรแกรม X-Lite
เข้าเมนู "X-Lite" แล้วคลิ๊กที่ "Account Settings" ป้อนค่าต่างๆดังนี้
UserID=100
Domain=192.168.4.55
Password=e100
Display Name=Khun Nui
Authorization Name=100

โปรแกรม PortSIP
Username=100
Password=e100
Proxy Server=192.168.4.55
Port=5060

โปรกรม sipLite
คลิ๊กที่ปุ่ม "Set" แล้วคลิ๊กที่ Tab "Register" ป้อนข้อมูลดังนี้
Server Address=192.168.4.55
Account Code=100
Password=e100
คลิ๊กที่ Tab "Options"
Server Port=5060

คอนฟิก SoftPhone ให้ได้อย่างน้อย 2 เบอร์นะครับจะได้ทดสอบโทรหากันได้ หรือให้ครบ 3 เบอร์เลยจะได้เอาไว้เทสฟีเจอร์อย่างอื่นด้วย

Note! ถ้าจะถามผมว่า ถ้ามีเครื่องคอมเครื่องเดียวจะลงโปรแกรม Softphone หลายๆโปรแกรมได้มั๊ย ผมขอตอบว่า "ได้" ครับ ลงได้ครับ แต่จะรันพร้อมๆกันได้หรือเปล่า ต้องมาเช็คที่ Local SIP Port ของแต่ละโปรแกรมอย่าให้มันตรงกันเป็นใช้ได้ครับ อย่างเช่นโปรแกรม sipLite มันเซ็ต SIP Local Port ได้ โดยเข้า Tab "Options" แล้วคลิ๊กที่ Bind to Port แล้วใส่เบอร์พอร์ต

3 ทดสอบโทรหากันระหว่างเบอร์ Extension
เมื่อเซ็ตอัพโปรแกรม SoftPhone พร้อมเบอร์ Extension อย่างน้อย 2 เบอร์แล้ว ก็โทรหากันได้เลยครับ เช่น Khun Nui จะโทรหา Khun Kik ก็กดเบอร์ 101 ของ Khun Kik แล้วโทรออก สัญญาณจะดังที่เบอร์ 101 รับสายและคุยกัน ถ้าโทรได้ก็แสดงว่าเวอร์คแล้ว

4 ฟีเจอร์ต่างๆใน Elastix
Elastix ก็คล้ายๆกับตู้สาขาโทรศัพท์นะครับ มีฟีเจอร์อย่างที่ตู้สาขาโทรศัพท์ทำได้ และมีอีกหลายฟีเจอร์ที่ตู้สาขาโทรศัพท์ทำไม่ได้หรือทำได้แต่ต้องเสียเงินซื้อออปชั่นเพิ่มในราคาที่ใกล้เคียงกับซื้อตู้สาขาใหม่
ฟีเจอร์ต่างๆเหล่านี้ก็ได้แก่ การโอนสาย การดึงสายมารับแทน การโทรเข้าไปฟังข้อความใน Voicemail การรับสายเรียกซ้อน เป็นต้น นี่เป็นรายละเอียดของ Feature Codes ทั้งหมดครับ
เวลาเราจะใช้งานฟีเจอร์ต่างๆเหล่านี้นะครับ เราต้องกดเข้าไปที่เบอร์ Extension เฉพาะที่ Elastix เตรียมมาให้เราใช้ จะเป็นเบอร์อะไรนั้นก็ดูที่หน้า Feature Code ได้เลยครับ เบอร์ Extension เหล่านี้ก็มีลักษณะเดียวกันกับเบอร์ Extension 100, 101, 102 ที่เราสร้างในหัวข้อที่ผ่านมาแต่เพื่อคนละวัตถุประสงค์ และเบอร์พิเศษเหล่านี้ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ VoIP มารีจิสเตอร์แต่อย่างใด
ก็คงจะพอรู้นะครับว่าเบอร์ Extension บน Elastix มันมีอยู่ 2 แบบคือ เบอร์เสมือนและเบอร์จริงๆ เบอร์เสมือนคือเบอร์ที่โทรเข้าไปหาได้โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ VoIP มารีจิสเตอร์ ส่วนเบอร์จริงๆคือเบอร์ที่ต้องมีอุปกรณ์ VoIP มารีจิสเตอร์ก่อนจึงจะโทรเข้าได้

5 ทดสอบการฝากข้อความ Voicemail
ลองโทรไปที่เบอร์ Extension ปลายทางที่กำลังใช้สายอยู่ หรือไม่ออนไลน์ หรือว่าออนไลน์อยู่แต่ไม่รับสายในเวลาที่กำหนด Elastix จะโอนสายเข้าระบบฝากข้อความ Voicemail ลองฝากข้อความและลองโทรเข้าไปฟังดู โดยกด *97 หรือ *98 (เป็นเบอร์พิเศษอยู่ใน Feature Code) และถ้าจะให้ส่ง Voicemail เข้าอีเมล์ด้วยก็ต้องใส่อีเมล์แอดเดรสในช่อง "Email Address" ตอนที่คอนฟิกเบอร์ Extension นะครับ

เอาหล่ะครับ ผมขอจบบทความเรื่อง "เริ่มต้นใช้งาน Elatix อย่างเป็นขั้นตอน" ไว้แค่ตอนที่ 4 นี้นะครับ การใช้งานที่เหลือก็รบกวนดูจากกระทู้อื่นๆนะครับ ถ้าหาหัวข้อที่ต้องการไม่เจอก็รบกวนแจ้งผมมาก็ได้ครับ ผมจะได้เขียนเพิ่มเติม ขอบคุณครับที่ติดตามมาจนถึงตอนสุดท้าย

Re: เริ่มต้นคอนฟิก Elastix อย่างเป็นขั้นตอน ตอนที่ 4

โพสต์โพสต์แล้ว: 03 ก.ย. 2013 19:37
โดย chatchai
ผมได้ติดตัง VMware แล้วติดตั้ง Elastix 1.6 ลงในโปรแกรม แต่ตอนที่ติดตั้งไม่ได้ไรท์ไฟล์ .iso ลงในแผ่น CD แต่ได้เลือกจากไฟล์ในคอมฯ ของผมเอง
ตอนเปิดขึ้นมาก็เจอตัวหนังสือวิ่งลงมาเป็นแถว และสุดท้ายก็ให้ ล็อกอินเข้าในระบบ หลังจากนั้นผมเข้าไปในระบบ แต่คอนฟิกอะไรไม่ได้เลย
เป็นเพราะอะไรครับ

(มือใหม่ฝึกทำครับ)

Re: เริ่มต้นคอนฟิก Elastix อย่างเป็นขั้นตอน ตอนที่ 4

โพสต์โพสต์แล้ว: 04 ก.ย. 2013 23:52
โดย nuiz
เข้าไปคอนฟิกมันยังไงครับ ลองดูบทความการคอนฟิก Elastix ในเว็บนี้ดูครับ มีทำเป็นขั้นตอนอยู่ว่าติดตั้งเสร็จแล้วให้ทำอะไรบ้าง บทความแรกๆหน่ะครับ

** ถ้ามีรายละเอียดรูปด้วยก็จะดีมากครับ อ่านแต่ตัวหนังสือมันนึกไม่ออกว่าติดตรงไหน เข้าหน้าไหน **

Re: เริ่มต้นคอนฟิก Elastix อย่างเป็นขั้นตอน ตอนที่ 4

โพสต์โพสต์แล้ว: 15 ก.ย. 2013 13:02
โดย sirom
เสร็จเรียบร้อยไปแล้วครับ กับ ESXI5+ elastix2.4 +VoIP Gateway 8 port สินค้าดี บริการดีจากคุณ nuiz ทดแทน elastix1.6+card tmd410P ที่ช่วงหลังเริ่มงอแง
ขอบคุณมากครับ

Re: เริ่มต้นคอนฟิก Elastix อย่างเป็นขั้นตอน ตอนที่ 4

โพสต์โพสต์แล้ว: 22 ส.ค. 2014 11:13
โดย Abbot
สวัสดีครับ

คือผมเริ่มทำตามขั้นตอนตามหัวข้อ แต่มาติดตอนที่จะสร้าง SIP Extension รูปตัวอย่างไม่อยู่แล้ว
ไม่ทราบว่าพอจะแนะนำอีกครั้งได้หรือไม่ครับ

ขอบคุณครับ